ข้อแนะนำต่อไปนี้เป็นวิธีการเพาะถั่วงอกจากถั่วต่าง ๆ 6 ชนิด คือ ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วลันเตา และถั่วลิสง ซึ่งมีวิธีการเพาะที่ง่าย สามารถทำกินเองได้ และหากใครจะพัฒนาเป็นอาชีพก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากถั่วเขียวงอกแล้ว ถั่วอื่น ๆ งอกยังมีคนทำไม่มากนัก
ถั่วเขียวงอก
ถั่วงอกที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นถั่วเขียวงอก เมล็ดถั่วเขียวที่นำมาใช้เพาะเป็นถั่วงอกมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ ถั่วเขียวผิวมัน ซึ่งเป็นถั่วเขียวที่เราคุ้นเคยกันดี ผิวของถั่วมีสีเขียวมันและถั่วเขียวผิวดำ ผิวของถั่วจะมีสีดำ เป็นถั่วเขียวที่นิยมนำมาใช้เพาะถั่วงอกโดยเฉพาะ เพราะให้ถั่วงอกที่ขาวน่ากิน แต่เมล็ดพันธุ์จะหาซื้อยากกว่าถั่วเขียวผิวมัน อย่างไรก็ตามถั่วเขียวทั้งสองพันธุ์สามารถนำมาเพาะถั่วงอกได้อร่อยน่ากินไม่แพ้กัน
วิธีการเพาะถั่วเขียวงอก
1. ล้างเมล็ดถั่วเขียวให้สะอาด แช่ในน้ำอุ่น แล้วทิ้งไว้ให้เย็น แช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน เมล็ดถั่วจะเริ่มมีรากเล็ก ๆ โผล่ออกมา
2. เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะที่เจาะรูที่ก้นถังและด้านข้างของถัง เพื่อเป็นรูระบายน้ำไว้แล้วเกลี่ยเมล็ดถั่วให้ถั่ว (ถังพลาสติกสีดำขนาดปากกว้าง 12 นิ้ว จะใช้ถั่วเขียวประมาณครึ่งกิโลกรัม จะได้ถั่วงอกประมาณ 3-4 กก.) รดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับถั่ว รดน้ำบนฟองน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง แล้วปิดฝา วางไว้ในที่มืด
3. รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วเขียวจะใช้เวลาประมาณ 2 วันครึ่งถึง 3 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่นำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้
ถั่วดำงอก
ถั่วดำเป็นถั่วอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาเพาะเป็นถั่วงอกได้ดี ลักษณะของถั่วดำงอกจะมีหัวที่โตกว่าถั่วเหลืองมีรสชาติที่มันและมีลำต้นจะอวบอ้วนกว่าถั่วเขียวงอก มีรสชาติหวานกรอบ นำมากินเป็นผักดิบได้ดี ส่วนเมล็ดพันธุ์ ก็หาซื้อได้ทั่วไป และควรเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่
วิธีการเพาะถั่วดำงอก
1. ล้างเมล็ดถั่วดำให้สะอาด แล้วแช่น้ำค้างไว้ 1 คืน
2. เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดให้ทั่ว ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับ แล้วรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง
3. ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่ร่ม
4. รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วดำจะใช้เวลา 3-4 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่พร้อมน้ำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้
ถั่วเหลืองงอก
ในความเป็นจริง ถั่วเหลืองงอกเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอยู่ไม่น้อย แต่ที่มีการบริโภคกันไม่แพร่หลายเหมือนถั่วเขียวงอกคงเป็นเพราะเมล็ดพันธุ์ที่หาได้ยากกว่า และอัตราการงอกของเมล็ดถั่วเหลือง ก็เสื่อมสภาพเร็วกว่าถั่วเขียว จึงทำให้ถั่วเหลืองที่เก็บรักษาไว้แล้วนำมาเพาะเป็นถั่วเหลืองงอกได้ไม่ดี
ถั่วเหลืองงอกสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายวิธี ไม่ว่าจะกินสด เป็นผักสลัด หรือผัดหรือต้มจืด ด้วยจุดเด่นที่หัวของถั่วงอกที่โตมีความมันอร่อย การเพาะถั่วเหลืองงอกก็ใช้วิธีเดียวกับถั่วเขียวงอก แต่จะเพาะยากกว่า เพราะโอกาสเน่าจะมีมากว่าและใช้เวลามากกว่าการเพาะถั่วเขียวงอกเล็กน้อย
วิธีการเพาะถั่วเหลืองงอก
1. ล้างเมล็ดถั่วเหลืองให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดา (ไม่ควรล้างด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้อัตราการงอกของถั่วเหลืองลดลง) แล้วแช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน เนื่องจากถั่วเหลืองเป็นพืชน้ำมันจึงควรหมั่นเปลี่ยนน้ำ เมล็ดถั่วที่สมบูรณ์จะเริ่มมีรากเล็ก ๆ งอกออกมา
2. เทเมล็ดถั่วเหลืองลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดถั่วให้ทั่ว รดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับถั่ว รดน้ำบนฟองน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง
3. ปิดฝา วางไว้ในที่มืด
4. รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3 ชั่วโมง พยายามอย่าให้ขาดน้ำ เพราะถั่วเหลืองมีโอกาสเน่าง่าย ถั่วเหลืองจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงเป็นถั่วเหลืองงอกที่นำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้
ถั่วแดงงอก
ถั่วแดงที่ใช้นำมาเพาะเป็นถั่วงอกนี้ เป็นถั่วแดงพันธุ์นิ้วนางแดง ที่มีขนาดและรูปร่างเหมือนถั่วเขียว แต่มีสีแดง เมื่อนำมาเพาะเป็นถั่วงอกแล้วรูปร่างหน้าตาจะคล้ายกับถั่วเขียวงอก เพียงแต่หัวของถั่วงอกจะมีสีแดง ลักษณะของต้นถั่วงอกก็คล้ายกัน มีขนาดใกล้เคียงกัน รสชาติกรอบและมัน แต่จะหวานน้อยกว่าถั่วเขียว วิธีการเพาะกับระยะเวลาในการเพาะก็ใกล้เคียงกับถั่วเขียวงอก
วิธีการเพาะถั่วแดงงอก
1. ล้างเมล็ดถั่วแดงให้สะอาด แช่ในน้ำอุ่นทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแช่ค้างคืนไว้ 1 คืน เมล็ดถั่วจะเริ่มมีรากงอกออกมา
2. เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดถั่วให้ทั่ว รดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำวางทับเมล็ดถั่ว รดน้ำผ่านฟองน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง
3. ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่มืด
4. รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วแดงจะใช้เวลา 2 วันครึ่งถึง 3 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่สามารถนำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้
ถั่วลันเตางอก
ถั่วลันเตา เป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง จึงเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายอย่าง รวมทั้งเป็นของว่างและกับแกล้ม นอกจากนี้ในปัจจุบันยังนิยมนำเอาถั่วลันเตามาเพาะเป็นต้นอ่อนของถั่วลันเตา ซึ่งชาวจีนเรียกว่าต้นโตเหมี่ยวเป็นที่นิยมรับประทานกันมาก
การเพาะถั่วลันเตางอกจะต้องใช้วัสดุเพาะคือขี้เลื่อย และแกลบช่วยในการเพาะ และตะกร้าสี่เหลี่ยมก้นแบนและเป็นรูเป็นภาชนะเพาะ เพื่อให้ถั่วลันเตางอกในแนวราบ เมล็ดพันธุ์ของถั่วลันเตาหาซื้อยากสักหน่อย และใช้เวลาค่อนข้างมากในการเพาะ
วิธีการเพาะถั่วลันเตางอก
1. ล้างเมล็ดถั่วลันเตาให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้นาน 18-24 ชั่วโมง
2. นำขี้เลื่อยผสมแกลบ เทลงไปในภาชนะเพาะ เกลี่ยให้เรียบโรยเมล็ดถั่วลันเตาลงบนขี้เลื่อยกับแกลบเกลี่ยให้ทั่วอย่าให้ซ้อนทับกัน แล้วคลุมทับด้วยขี้เลื่อยผสมแกลบบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้แฉะจนเกินไป เก็บไว้ในที่ร่มรำไร เพราะถ้าหากต้นอ่อนถั่วลันเตาไม่ถูกแสงแดดเลย ต้นจะเหลืองและแข็ง
3. รดน้ำวันละ 3 ครั้งก็เพียงพอ เพราะถ้ารดบ่อยกว่านี้เมล็ดจะเน่าได้ ประมาณ 10 วัน ต้นอ่อนของถั่วลันเตาจะสูงประมาณ 2-2.5 นิ้ว จึงจะพอดีสำหรับการรับประทาน
4. ใช้กรรไกรคม ๆ ตัดที่โคนต้น ต้นอ่อนของถั่วลันเตาเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 10 วัน
ถั่วลิสงงอก
เอกลักษณ์ของถั่วลิสง คือ ความมันของเมล็ดถั่ว เมื่อนำมาคั่วใช้กินเป็นของว่างหรือกับแกล้ม คนทางใต้นำเอาถั่วลิสงมาเพาะเป็นถั่วลิสงงงอกกันเป็นผักสด ซึ่งนอกจากความกรอบของต้นถั่วแล้ว ยังมีรสชาติความมันแบบฉบับของถั่วลิสงอยู่ด้วย ถั่วลิสงงอกเพาะได้ง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าถั่วเขียวและถั่วเหลือง เมล็ดถั่วหาซื้อได้ง่าย ควรเลือกเมล็ดที่สดใหม่ระมัดระวังเรื่องเชื้อรา
วิธีเพาะถั่วลิสงงอก
1. ล้างเมล็ดถั่วลิสงให้สะอาด แล้วแช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน
2. เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดให้ทั่ว ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับ แล้วรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง
3. ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่มืด
4. รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วลิสงจะใช้เวลา 4-5 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่พร้อมจะนำไปรับประทานหรือจำหน่าย