วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การเพาะถั่วงอก... สารพัด ถั่ว...งอก...

ข้อแนะนำต่อไปนี้เป็นวิธีการเพาะถั่วงอกจากถั่วต่าง ๆ 6 ชนิด คือ ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วลันเตา และถั่วลิสง ซึ่งมีวิธีการเพาะที่ง่าย สามารถทำกินเองได้ และหากใครจะพัฒนาเป็นอาชีพก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากถั่วเขียวงอกแล้ว ถั่วอื่น ๆ งอกยังมีคนทำไม่มากนัก


ถั่วเขียวงอก

ถั่วงอกที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นถั่วเขียวงอก เมล็ดถั่วเขียวที่นำมาใช้เพาะเป็นถั่วงอกมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ ถั่วเขียวผิวมัน ซึ่งเป็นถั่วเขียวที่เราคุ้นเคยกันดี ผิวของถั่วมีสีเขียวมันและถั่วเขียวผิวดำ ผิวของถั่วจะมีสีดำ เป็นถั่วเขียวที่นิยมนำมาใช้เพาะถั่วงอกโดยเฉพาะ เพราะให้ถั่วงอกที่ขาวน่ากิน แต่เมล็ดพันธุ์จะหาซื้อยากกว่าถั่วเขียวผิวมัน อย่างไรก็ตามถั่วเขียวทั้งสองพันธุ์สามารถนำมาเพาะถั่วงอกได้อร่อยน่ากินไม่แพ้กัน

วิธีการเพาะถั่วเขียวงอก

1.  ล้างเมล็ดถั่วเขียวให้สะอาด แช่ในน้ำอุ่น แล้วทิ้งไว้ให้เย็น แช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน เมล็ดถั่วจะเริ่มมีรากเล็ก ๆ โผล่ออกมา

2.  เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะที่เจาะรูที่ก้นถังและด้านข้างของถัง เพื่อเป็นรูระบายน้ำไว้แล้วเกลี่ยเมล็ดถั่วให้ถั่ว (ถังพลาสติกสีดำขนาดปากกว้าง 12 นิ้ว จะใช้ถั่วเขียวประมาณครึ่งกิโลกรัม จะได้ถั่วงอกประมาณ 3-4 กก.) รดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับถั่ว รดน้ำบนฟองน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง แล้วปิดฝา วางไว้ในที่มืด

3.  รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วเขียวจะใช้เวลาประมาณ 2 วันครึ่งถึง 3 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่นำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้


ถั่วดำงอก

ถั่วดำเป็นถั่วอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาเพาะเป็นถั่วงอกได้ดี ลักษณะของถั่วดำงอกจะมีหัวที่โตกว่าถั่วเหลืองมีรสชาติที่มันและมีลำต้นจะอวบอ้วนกว่าถั่วเขียวงอก มีรสชาติหวานกรอบ นำมากินเป็นผักดิบได้ดี ส่วนเมล็ดพันธุ์ ก็หาซื้อได้ทั่วไป และควรเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่

วิธีการเพาะถั่วดำงอก

1.  ล้างเมล็ดถั่วดำให้สะอาด แล้วแช่น้ำค้างไว้ 1 คืน

2.  เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดให้ทั่ว ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับ แล้วรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง

3.  ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่ร่ม

4.  รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วดำจะใช้เวลา 3-4 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่พร้อมน้ำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้


ถั่วเหลืองงอก

ในความเป็นจริง ถั่วเหลืองงอกเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอยู่ไม่น้อย แต่ที่มีการบริโภคกันไม่แพร่หลายเหมือนถั่วเขียวงอกคงเป็นเพราะเมล็ดพันธุ์ที่หาได้ยากกว่า และอัตราการงอกของเมล็ดถั่วเหลือง ก็เสื่อมสภาพเร็วกว่าถั่วเขียว จึงทำให้ถั่วเหลืองที่เก็บรักษาไว้แล้วนำมาเพาะเป็นถั่วเหลืองงอกได้ไม่ดี

ถั่วเหลืองงอกสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายวิธี ไม่ว่าจะกินสด เป็นผักสลัด หรือผัดหรือต้มจืด ด้วยจุดเด่นที่หัวของถั่วงอกที่โตมีความมันอร่อย การเพาะถั่วเหลืองงอกก็ใช้วิธีเดียวกับถั่วเขียวงอก แต่จะเพาะยากกว่า เพราะโอกาสเน่าจะมีมากว่าและใช้เวลามากกว่าการเพาะถั่วเขียวงอกเล็กน้อย

วิธีการเพาะถั่วเหลืองงอก

1.  ล้างเมล็ดถั่วเหลืองให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดา (ไม่ควรล้างด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้อัตราการงอกของถั่วเหลืองลดลง) แล้วแช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน เนื่องจากถั่วเหลืองเป็นพืชน้ำมันจึงควรหมั่นเปลี่ยนน้ำ เมล็ดถั่วที่สมบูรณ์จะเริ่มมีรากเล็ก ๆ งอกออกมา

2.  เทเมล็ดถั่วเหลืองลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดถั่วให้ทั่ว รดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับถั่ว รดน้ำบนฟองน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง

3.  ปิดฝา วางไว้ในที่มืด

4.  รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3 ชั่วโมง พยายามอย่าให้ขาดน้ำ เพราะถั่วเหลืองมีโอกาสเน่าง่าย ถั่วเหลืองจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงเป็นถั่วเหลืองงอกที่นำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้


ถั่วแดงงอก

ถั่วแดงที่ใช้นำมาเพาะเป็นถั่วงอกนี้ เป็นถั่วแดงพันธุ์นิ้วนางแดง ที่มีขนาดและรูปร่างเหมือนถั่วเขียว แต่มีสีแดง เมื่อนำมาเพาะเป็นถั่วงอกแล้วรูปร่างหน้าตาจะคล้ายกับถั่วเขียวงอก เพียงแต่หัวของถั่วงอกจะมีสีแดง ลักษณะของต้นถั่วงอกก็คล้ายกัน มีขนาดใกล้เคียงกัน รสชาติกรอบและมัน แต่จะหวานน้อยกว่าถั่วเขียว วิธีการเพาะกับระยะเวลาในการเพาะก็ใกล้เคียงกับถั่วเขียวงอก

วิธีการเพาะถั่วแดงงอก

1.  ล้างเมล็ดถั่วแดงให้สะอาด แช่ในน้ำอุ่นทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแช่ค้างคืนไว้ 1 คืน เมล็ดถั่วจะเริ่มมีรากงอกออกมา

2.  เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดถั่วให้ทั่ว รดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำวางทับเมล็ดถั่ว รดน้ำผ่านฟองน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง

3.  ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่มืด

4.  รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วแดงจะใช้เวลา 2 วันครึ่งถึง 3 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่สามารถนำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้


ถั่วลันเตางอก

ถั่วลันเตา เป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง จึงเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายอย่าง รวมทั้งเป็นของว่างและกับแกล้ม นอกจากนี้ในปัจจุบันยังนิยมนำเอาถั่วลันเตามาเพาะเป็นต้นอ่อนของถั่วลันเตา ซึ่งชาวจีนเรียกว่าต้นโตเหมี่ยวเป็นที่นิยมรับประทานกันมาก

การเพาะถั่วลันเตางอกจะต้องใช้วัสดุเพาะคือขี้เลื่อย และแกลบช่วยในการเพาะ และตะกร้าสี่เหลี่ยมก้นแบนและเป็นรูเป็นภาชนะเพาะ เพื่อให้ถั่วลันเตางอกในแนวราบ เมล็ดพันธุ์ของถั่วลันเตาหาซื้อยากสักหน่อย และใช้เวลาค่อนข้างมากในการเพาะ

วิธีการเพาะถั่วลันเตางอก

1.  ล้างเมล็ดถั่วลันเตาให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้นาน 18-24 ชั่วโมง

2.  นำขี้เลื่อยผสมแกลบ เทลงไปในภาชนะเพาะ เกลี่ยให้เรียบโรยเมล็ดถั่วลันเตาลงบนขี้เลื่อยกับแกลบเกลี่ยให้ทั่วอย่าให้ซ้อนทับกัน แล้วคลุมทับด้วยขี้เลื่อยผสมแกลบบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้แฉะจนเกินไป เก็บไว้ในที่ร่มรำไร เพราะถ้าหากต้นอ่อนถั่วลันเตาไม่ถูกแสงแดดเลย ต้นจะเหลืองและแข็ง

3.  รดน้ำวันละ 3 ครั้งก็เพียงพอ เพราะถ้ารดบ่อยกว่านี้เมล็ดจะเน่าได้ ประมาณ 10 วัน ต้นอ่อนของถั่วลันเตาจะสูงประมาณ 2-2.5 นิ้ว จึงจะพอดีสำหรับการรับประทาน

4.  ใช้กรรไกรคม ๆ ตัดที่โคนต้น ต้นอ่อนของถั่วลันเตาเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 10 วัน


ถั่วลิสงงอก

เอกลักษณ์ของถั่วลิสง คือ ความมันของเมล็ดถั่ว เมื่อนำมาคั่วใช้กินเป็นของว่างหรือกับแกล้ม คนทางใต้นำเอาถั่วลิสงมาเพาะเป็นถั่วลิสงงงอกกันเป็นผักสด ซึ่งนอกจากความกรอบของต้นถั่วแล้ว ยังมีรสชาติความมันแบบฉบับของถั่วลิสงอยู่ด้วย ถั่วลิสงงอกเพาะได้ง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าถั่วเขียวและถั่วเหลือง เมล็ดถั่วหาซื้อได้ง่าย ควรเลือกเมล็ดที่สดใหม่ระมัดระวังเรื่องเชื้อรา

วิธีเพาะถั่วลิสงงอก

1.  ล้างเมล็ดถั่วลิสงให้สะอาด แล้วแช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน

2.  เทเมล็ดถั่วลงในถังเพาะ เกลี่ยเมล็ดให้ทั่ว ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม ใช้แผ่นฟองน้ำปิดทับ แล้วรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่ง

3.  ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่มืด


4.  รดน้ำเหมือนในข้อ 2 ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ถั่วลิสงจะใช้เวลา 4-5 วัน จึงเป็นถั่วงอกที่พร้อมจะนำไปรับประทานหรือจำหน่าย

'ถั่วงอก' มากคุณค่าทางโภชนาการ

ช่วงนี้อากาศแปรปรวนบ่อยเดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวลมหนาวพัดมา ทำให้หลายคนเจ็บป่วย โดยเฉพาะอาการหวัดที่มักจะเป็นกันมาก จึงต้องหมั่นดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงจาก "ถั่วงอก" ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย แถมยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหวัด วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีมีคุณประโยชน์ของถั่วงอกมาบอกกล่าวให้ทราบกันด้วย
"ถั่วงอก" คือ ต้นอ่อนที่งอกออกมาจากเมล็ดของถั่ว ซึ่งเมล็ดถั่วที่นิยมเพาะกันมีหลายชนิด ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลิสง ถั่วลันเตา ซึ่งรสชาติและวิธีการเพาะถั่วแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันออกไป สำหรับถั่วที่คนไทยนิยมรับประทานกัน คือถั่วงอกที่เพาะมาจากถั่วเขียว เพราะมีรสชาติหวานกรอบ และอร่อยถูกปากคนไทย ซึ่งสามารถรับประทานได้หลายรูปแบบ เช่น นำมาใส่ในก๋วยเตี๋ยว นำมาเป็นเครื่องเคียงในขนมจีนน้ำยา ใส่ในผัดไทย หอยทอด และยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อีก เช่น ผัดถั่วงอก
สำหรับคุณค่าทางโภชนาการของถั่วงอกนั้นมีคุณค่าทางอาหารหลายอย่าง ได้แก่ โปรตีน เกลือแร่ และวิตามินค่อนข้างครบถ้วน โดยในถั่วงอกนั้นจะมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็กสูง อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย ถ้าเรารับประทานถั่วงอก 1 ถ้วย จะให้วิตามินซีในปริมาณ 1 ใน 10 ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน  ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่เราจะรับประทานถั่วงอกเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคหวัด
นอกจากนี้ถั่วงอกยังจัดเป็นผักที่ให้พลังงานต่ำ โดยถั่วงอก 100 กรัมจะให้พลังงานเพียง 36 กิโลแคลอรี และยังให้เส้นใยอาหารสูงจึงเหมาะกับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักตัว หรือคนที่มีน้ำหนักตัวเกิน
อย่างไรก็ตามมีการทดลองในหนูพบว่า การให้หนูกินสารในถั่วงอกสามารถป้องกันตับจากการถูกทำลายได้ โดยในถั่วงอกมีสารอาหารพิเศษ ได้แก่ สารซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส หรือเอสโอดี (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์สูง สารกาบา (GABA) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง พบว่า สูงกว่าถั่วธรรมดาถึง 27 เท่า สารออกซิน (Auxin) เป็นฮอร์โมนที่พบได้ในพืช ทำหน้าที่ควบคุมการแก่ของเซลล์ได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าสามารถป้องกันการแก่ของเซลล์ในคน
นอกจากนี้ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานคุณค่าทางโภชนาการของถั่วงอก 100 กรัม ให้คุณค่าดังนี้ โปรตีน 2.8 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 85 มิลลิกรัม แคลเซียม 27 มิลลิกรัม และเหล็ก 12 มิลลิกรัม ส่วนวิตามินอื่น ๆ ในถั่วงอก ได้แก่ วิตามินบี 1 บี 2 ฯลฯ
ที่สำคัญการเลือกรับประทานถั่วงอกให้ได้ประโยชน์สูงสุดต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่เลือกซื้อถั่วงอกที่มีสีขาวผิดปกติ หรือมีสีคล้ำมากกว่าปกติ และในการนำมาประกอบอาหารควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหลาย ๆ ครั้ง จากนั้นจึงทำให้สุกเพราะความร้อนจะทำให้สารฟอกขาวถูกทำลายได้ หรือถ้าไม่มั่นใจก็สามารถปลูกรับประทานเองได้ง่าย ๆ
เมื่อทราบแบบนี้แล้วก็อย่าลืมหันมารับประทานถั่วงอกกันดูบ้าง เพราะนอกจากจะให้คุณค่าต่อร่างกายมากมายแล้วยังมีราคาถูกอีกด้วย หรือใครจะปลูกรับประทานเองก็สามารถทำได้ ง่าย ๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายที่ดีค่ะ


ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ว่าด้วยเรื่อง ถั่วงอก

 ถั่วงอก คือต้นอ่อนระยะเริ่มงอกของเมล็ด แต่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเมล็ดของถั่วเขียวงอก คนไทยคุ้นเคยกับถั่วงอกจากถั่วเขียวมาช้านาน เมื่อกระแสเรื่องสุขภาพกำลังเป็นที่สนใจ ทำาให้มีการนำเมล็ดพืชหลายชนิดมาเพาะเป็นต้นอ่อน ทำให้ในปัจจุบันถั่วงอกและเมล็ดงอกที่เพาะขายเป็นการค้ามีหลายชนิด เช่น


ไควาเระ เพาะจากเมล็ดหัวไชเท้า รสกรอบ หวานซ่า  เล็กน้อย มีวิตามินเอ วิตามินซี และโปแตสเซียมสูง
โต้วเหมี่ยว เพาะจากเมล็ดถั่วลันเตา หวานกรอบ  รสเหมือนถั่วลันเตา ใช้เวลาเพาะประมาณ 10 วันก็ได้ต้นอ่อนที่  เก็บกินได้ มีวิตามินบี และวิตามินซีสูง
ถั่วงอกหัวโต หรือ ถั่วเหลืองงอก ใช้เวลาเพาะนานวันกว่าถั่วงอก มีกลิ่นถั่วและเนื้อกระด้างกว่าถั่วงอก หัวแข็งแต่มัน   มีโปรตีนและไขมันสูง

ถั่วแดงงอก เพาะจากถั่วแดง หรือ adzuki beans เพาะง่ายเหมือนถั่วเขียวงอก มีหัวโต ช่วยให้กรอบมัน
ถั่วลิสงงอก กรอบอร่อย มีรสมัน ถั่วลิสงเพาะยากกว่าถั่วอื่น ๆ เพราะขึ้นราได้ง่าย ดังนั้นถึงแม้จะอร่อยมาก แต่กลับ  มีคนเพาะขายกันน้อย พบมากในภาคใต้
ถั่วดำงอก กรอบ มัน รสดี ไม่มีกลิ่นถั่ว
งางอก เพาะจากเมล็ดงาได้ไม่ยาก รสกรอบ และขมเล็กน้อย มีโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุสูง
เมล็ดทานตะวันงอก เมล็ดเพาะได้ง่ายโดยแกะเปลือกออกก่อน มีกรดไขมันดีในปริมาณสูง
          ถั่วงอกและเมล็ดงอกอุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามิน  คนเอเชียรับประทานถั่วงอกทั้งดิบและสุก จนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอาหารไปแล้ว มีหลักฐานทางโบราณคดียืนยันว่า “คนจีน” เป็นชนชาติแรกที่รู้จักวิธีการเพาะถั่วงอกกินเป็นอาหารมาไม่น้อยกว่า 4,000 ปีแล้ว ซึ่งในสมัยนั้นจะใช้เมล็ดถั่วเหลืองในการเพาะ ทำให้ถั่วงอกที่ได้มีลักษณะหัวโต จึงนิยมเรียกกันว่า “ถั่วงอกหัวโต” คนจีนโบราณใช้ถั่วเหลืองงอกเป็นแหล่งวิตามินซีในฤดูหนาวที่ผักและผลไม้หายาก แม้แต่กะลาสีเรือก็กินถั่วงอกเพื่อช่วยป้องกันรักษาโรคลักปิดลักเปิดส่วนโปรตีนในถั่วงอกจะมีมากกว่าถั่วธรรมดาเล็กน้อย
          นอกจากนั้น ในถั่วงอกยังมีวิตามิน บี 12 ซึ่งจำาเป็นสำหรับการซ่อมแซมเซลล์ มีธาตุเหล็กและเลซิตินช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท ถั่วงอกเป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีเส้นใยสูง เนื่องจากในกระบวนการงอกของเมล็ดถั่วโปรตีนจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือกลูโคส และไขมันกลายเป็นกรดไขมัน ทำให้ร่างกายสามารถย่อยเพื่อนำไปใช้ได้อย่างง่ายดาย จึงช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหาร ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนกับการกินเนื้อสัตว์ช่วยให้การขับถ่ายดี ช่วยดูดซับของเสียออกจากร่างกาย  เมื่อระบบร่างกายไม่ต้องทำงานหนัก ร่างกายจึงเสื่อมช้าทั้งยังให้พลังงานต่ำปราศจากไขมัน ไม่เพียงเท่านั้นในถั่วงอกยังมีสารออซินัน (Auxinon) ซึ่งเป็นสารต้านความแก่ คนที่กินถั่วงอกเป็นประจำจึงยังคงความหนุ่มสาวได้ยาวนานไม่แก่เกินวัย และเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารสำาหรับคนที่ต้องการลดน้ำ หนัก นักโภชนาการจึงยกให้ถั่วงอกเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพอีกอย่างหนึ่ง


ถั่วงอก เพาะจากถั่วเขียวเมล็ดเขียวและเมล็ดดำา ใช้เวลาเพาะประมาณ 3 วัน มีรสกรอบ มีวิตามิน และเกลือแร่สูง

อัลฟาลฟา (Alfalfa) เพาะจากถั่วลันเตาชนิดหนึ่ง  นิยมใช้เป็นผักสลัด มีโปรตีนและวิตามินบีสูง




          ปัจจุบันในต่างประเทศยังนิยมนำเมล็ดธัญพืชหลายชนิดมาทำเมล็ดงอก เช่น ข้าวสาลีงอก ข้าวโอ๊ตงอก ข้าวบาร์เลย์งอก ข้าวไรย์งอก ข้าวโพดงอก ฯลฯ ทำให้ได้เมล็ดงอกที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อควรระวังของถั่วงอก

บริโภคถั่วงอกดิบระวังสารฟอกสีอันตราย
ที่มา : กองอาหาร

        สารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์เป็นสารฟอกสีที่มีฤทธิ์ฟอกขาวได้สูง นิยมใช้ในอุตสาหกรรมฟอกย้อมแห อวน แต่มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าบางรายประเภทถั่วงอก น้ำตาลปึก ขิงหั่นฝอย หน่อไม้ดอง กลับนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อหวังผลในการจูงใจลูกค้าซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการบริโภคสินค้าดังกล่าวได้
        ปัจจุบันผู้จำหน่ายถั่วงอกบางรายมักนำสารฟอกขาวมาผสมน้ำแช่ถั่วงอกเพื่อให้ถั่วงอกมีสีขาว อวบ น่ารับประทานและเก็บไว้จำหน่ายได้นาน สารฟอกขาวดังกล่าวมีทั้งประเภทที่อนุญาตให้นำมาใช้ในอาหารได้ เช่น โซเดียมซัลไฟต์ ซึ่งมีฤทธิ์ในการฟอกต่ำ ผู้จำหน่ายจึงนิยมใช้สารฟอกขาวประเภทที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร คือ โซเดียมไฮโดรซัลไฟต์มาผสม สารนี้มีฤทธิ์ฟอกขาวได้สูงกว่าประเภทแรก 2-3 เท่า สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้แต่มีอันตรายต่อร่างกายเมื่อบริโภคเข้าไปจะทำให้เกิดอาการหายใจขัด ความดันโลหิตต่ำ ปวดท้อง อาเจียน อุจจาระร่วง สำหรับผู้ที่แพ้อย่างรุนแรงหรือป่วยเป็นโรคหอบหืดจะมีอาการรุนแรงขึ้น มีอาการช็อค หมดสติและอาจเสียชีวิตได้ตามที่เคยเป็นข่าวว่ามีการผสมสารชนิดนี้ลงในหน่อไม้ดอง ลอดช่อง-น้ำกะทิที่ทำจากน้ำตาลปึก และมีผู้นำไปบริโภคจนเสียชีวิตมาแล้ว
        ในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอดและได้พัฒนาและผลิตชุดทดสอบสารไฮโดรซัลไฟต์จนสามารถแยกสารฟอกขาวทั้ง 2 ชนิดออกจากอาหารที่ต้องสงสัยว่าจะมีการปนเปื้อนได้ ซึ่งปกติผู้ผลิตจะมีการนำสารประเภทนี้มาใช้ในความเข้มข้น 0.2% ขึ้นไป แต่ชุดทดสอบดังกล่าวสามารถตรวจความเข้มข้นของสารฟอกสีต่ำสุดได้ถึง 0.1% จึงทำให้สามารถวิเคราะห์หาสารฟอกสีได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้จัดทำโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าสู่ชุมชนเพื่อให้อาสาสมัครสาธารณะสุข นักเรียน นักศึกษา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับสามารถนำชุดทดสอบโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ไปใช้ในชุมชนได้โดยในปีที่ผ่านมาได้รับรายานการตรวจสอบถั่งงอก หน่อไม้ดอง ขิงหั่นฝอย ผลไม้สด น้ำตาลปึก และทุเรียนกวน จำนวน 2,438 ตัวอย่าง พบสารปนเปื้อนโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ 392 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 16 ซึ่งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบได้แจ้งให้ผู้ประกอบการทราบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว

        สำหรับประชาชนทั่วไปควรเพิ่มความระมัดระวังในการบริโภคสินค้าดังกล่าว โดยเฉพาะถั่วงอกซึ่งเป็นสินค้าใกล้ตัวและสามารถหาซื้อได้ง่าย ไม่ควรเลือกถั่วงอกที่มีสีขาวผิดปกติ หลีกเลี่ยงถั่วงอกที่มีสีคล้ำ มีส่วนเน่าเสียปนอยู่เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ นอกจากนี้ก่อนบริโภคถั่วงอกควรทำให้สุกเสียก่อนเพราะสารไฮโดรซัลไฟต์ที่อาจมีอยู่ในถั่วงอกจะถูกทำลายด้วยความร้อน ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการนำถั่วงอกดิบมารับประทานสด ๆ



ถั่วงอกในท้องตลาดอาจปนเปื้อนสารเร่งโต สารเร่งให้อ้วน สารฟอร์มาลิน และสารฟอกขาว ซึ่งต้องห้ามและเป็นโทษต่อร่างกาย สารปนเปื้อนเหล่านี้มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาทและระบบหายใจ รวมถึงอาจเป็นสาเหตุของเนื้องอกและมะเร็งด้วย

สรรพคุณของถั่วงอก

เมื่อพูดถึง "ถั่วงอก" หลายคนอาจจะกำลังรู้สึกถึงผัดถั่วงอกกันอยู่ใช่ไหมค่ะ แต่วันนี้เราไม่ได้มาผัดถั่วงอกนะค่ะแต่เรานำความรู้ สรรพคุณของถั่วงอก และประโยชน์ของถั่วงอกมาบอกคุณ ๆ ต่างหากล่ะค่ะ แม้ว่า ผักถั่วงอก จะมีราคาที่ค่อนข้างจะถูกและได้เยอะก็อย่าไปดูถูกว่าไม่มี สรรพคุณของถั่วงอก และ ประโยชน์ของถั่วงอก ล่ะนะค่ะ เพราะขอบอกว่า สรรพคุณของถั่วงอก และ ประโยชน์ของถั่วงอก นั้นมีมากมายเกินกว่าที่คุณคิดเอาไว้นัก ที่สำคัญกินถั่วงอกยังทำให้ดูอ่อนเยาว์อีกด้วยนะค่ะ อยากรู้คุณสมบัติของ ถั่วงอก กันแล้วใช่ไหมค่ะ นั้นเราก็มาดูสรรพคุณของถั่วงอกและประโยชน์ของถั่วงอกกันเลย
สรรพคุณ / ประโยชน์ของถั่วงอก
กระบวนการงอกทำให้โมเลกุลของสารอาหารในเมล็ดเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในลักษณะที่ร่างกายสามารถย่อยได้ง่าย โปรตีนเป็นกรดอะมิโนแป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตธรรมดาหรือกลูโคลสและไขมันเป็นกรดไขมัน เพราะกระบวนการงอกได้ช่วยย่อยสารอาหารมาแล้วชั้นหนึ่ง ถั่วงอกจึงเป็นอาหารที่ย่อยง่ายมากเท่ากับช่วยประหยัดการทำงานให้กับระบบย่อยาหารลดของเสียและสิ่งตกค้าง (toxin) ในร่างกาย เมื่อระบบร่างกายไม่ต้องทำงานหนักเกินไปร่างกายจึงเสื่อมช้าไม่แก่เร็ว

ถั่วงอกย่อยง่ายจะมีความสำคัญสำหรับใครแค่ไหนต้องพิจารณาแบบแผนการกินโดยรวมของผู้นั้นประกอบไปด้วย คิดแต่จะกินถั่วงอกแต่เดียวโดด ๆ ไม่ได้ สำหรับนักมังสวิรัติถั่วงอกเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ประสานสอดคล้องกับผักและอาหารมังสวิรัติอื่น ๆ ในทิศทางที่เกื้อต่อสุขภาพโดยรวมหากผู้ใดมีแบบแผนการกินที่พาเอาแต่อาหารย่อยยาก อาหารมีพิษเข้าร่างกาย การกินถั่วงอกในบางครั้งก็ไม่มีทางแก้ร้ายให้เป็นดี

ถั่วงอกมีโปรตีนสูงกว่าถั่วธรรมดาหรือไม่ นักนิยมถั่วและเมล็ดงอกมักอ้างว่ากระบวนการงอกทำให้ปริมาณโปรตีนมีสูงขึ้น แต่หลักฐานสนับสนุนยังไม่แข็งแรงมีน้ำหนักนักผลการวิจัยที่ยอมรับกันกว้างขวางมีเฉพาะเมล็ดข้าวโพดงอก ซึ่งพบว่า การงอกทำให้มีกรดโปรตีนที่จำเป็นสำหรับร่างกายเพิ่มมากขึ้น (กรดไลซินและไตรโทปันซึ่งไม่พบในเมล็ดข้าวโพดแห้ง) อย่างไรก็ตามอาจสรุปได้ว่าโดยทั่วไปโปรตีนของถั่วงอกมีมากกว่าถั่วธรรมดาเล็กน้อย (จาก 2% เป็น 5%)
อ้างอิงhttp://www.n3k.in.th/




ถั่วงอกสามารถนำมาอาหารได้หลายอย่าง

ถั่วงอกผัดเบคอน


ก๋วยเตี๋ยว


ผัดไทย


ผัดถั่วงอกเต้าหู้


ตำถาด


วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของถั่วงอก


         ถั่วงอก พืชที่เรารู้จักและกินมานาน แต่จะรู้ไหมว่าถั่วงอกมีประโยชน์อย่างไร
         คนจีนโบราณใช้ถั่วเหลืองงอกเป็นแหล่งวิตามินซีในฤดูหนาวที่ผักและผลไม้หายาก โดยเฉพาะกะลาสีเรือจะเพาะถั่วงอกกินในเรือเพื่อป้องกันและรักษาโรคลักปิด ลักเปิด เป็นอันรู้กันว่าถั่วเหลืองงอกมีวิตามินซี ส่วนถั่วเหลืองดิบ และเต้าหู้ที่ผลิตจากถั่วเหลืองก็หามีวิตามินซีไม่

         เมื่อนำถั่วเหลืองมาเพาะเป็นถั่วงอกจะมีวิตามินซีสูง (ถั่วงอก 100 กรัม มีวิตามินซี 5 มิลลิกรัม) ส่วนโปรตีนในถั่วงอกมีมากกว่าถั่วธรรมดาเล็กน้อย นอกจากนั้นการงอกยังทำให้ เกิดวิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ ถั่วงอกมีธาตุเหล็กที่ร่างกายย่อยได้ง่ายกว่าผักอื่นๆ มีวิตามินบี 17 และมีสารเลซิธิน (Lecithin) ช่วยบำรุงประสาทและการทำงานของสมอง ที่สำคัญและน่าสนใจสุดๆ สำหรับหนุ่มสาวที่ไม่อยากแก่ ถั่วงอกสดๆ มีพลังชีวิตซึ่งทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่แก่เร็ว เนื่องจากในถั่วงอกมีสารต้านความแก่ชื่อ ออซินอน (Auxinon) มีคุณสมบัติช่วงให้ร่างกายเป็นหนุ่มสาวได้นาน ไม่แก่เกินวัยไปก่อนจะถึงเวลาอันควร
         ถั่วงอกเป็นแหล่งวิตามิน การแพทย์จีนจึงนำถั่วงอกหัวโตไปต้มแกงจืดกิน ช่วยขับเสมหะ ทำให้ปอดโล่ง และขับปัสสาวะ และเนื่องจากโมเลกุลของสารอาหารในเมล็ดของถั่วที่งอกได้เปลี่ยนแปลงไปอยู่ใน ลักษณะที่ร่างกายเราสามารถย่อยได้ง่าย โปรตีนถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตธรรมดาหรือกลูโคส และไขมันเป็นกรดไขมันเรียบร้อยแล้วถั่วงอกจึงเป็นอาหารที่ย่อยง่ายมากๆ เมื่อเรารับประทานจึงเท่ากับช่วยประหยัดการทำงานให้กับระบบย่อยอาหาร ลดของเสียและสิ่งตกค้าง (toxin)ในร่างกาย เมื่อระบบร่างกายไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ร่างกายจึงเสื่อมช้า ไม่แก่เร็ว

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ข้อดีข้อเสียของถั่วงอก

ข้อเสีย

หากรับประทานถั่วงอกมากเกินควรในครั้งเดียว ร่างกายจะอิดโรย ผอมซูบ เป็นลม หมดสติ เพราะร่างกายผู้หญิงและผู้ชายบางกรุ๊ปเลือดจะเผาผลาญพลังงานตลอดเวลา นี้เป็นปัจจัยให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมากผิดปกติ และอาจทำให้เสียชีวิตได้

สรรพคุณทางยา

ถั่วงอกมีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้และเอนไซม์ เพราะช่วยกระตุ้นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นภายในร่างกาย หรือที่เรียกว่า "ตัวทำปฏิกิริยา" ทั้งยังช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด

ข้อควรระวัง

ถั่วงอกในท้องตลาดอาจปนเปื้อนสารเร่งโต สารเร่งให้อ้วน สารฟอร์มาลิน และสารฟอกขาว ซึ่งต้องห้ามและเป็นโทษต่อร่างกาย สารปนเปื้อนเหล่านี้มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และระบบหายใจ รวมถึงอาจเป็นสาเหตุของเนื้องอกและมะเร็งด้วย

วิดีโอสาธิตการปลูกถั่งอก


วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การปลูกถั่วงอกไร้ดิน       
     วิธีการเพาะถั่วงอกไร้ดิน 
Entry นี้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากการที่ผมและครอบครัว ได้ไปอบรมการเพาะถั่วงอกโดย อ.นิมิตร์ เทียมมงคล ผู้เพาะ"ถั่วงอกรักชาติ" จาก จ.ลพบุรี (จาก entry เรื่อง "ถั่วงอกตัดราก แบบคอนโดฯ 4 ชั้น" & "ถั่วงอกในขวดน้ำพลาสติก" นวัตกรรมที่โลกต้องตะลึง !!! ...ทำเอง กินเอง ไม่ยากเลย... ".

สำหรับวันนี้ผมขอแนะนำนวัตกรรมการถั่วเพาะถั่วงอก โดยใช้ "ขวดน้ำพลาสติก" ทุกขนาดสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุในการเพาะถั่วงอกได้ (แต่ต้องเป็นขวดเหลี่ยมเท่านั้นนะครับ..) ฟังดูแล้ว ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจะทำได้ ... แต่ อ.นิมิตร์ เทียมมงคล ก็สามารถทำได้เล้ว ....
ก่อนจากในวันนั้น ท่านได้ให้คาถาเพาะถั่วงอกมาก็คือ  ททท.(ทำ-ทัน-ที) ดังนั้น ผมและครอบครัว จึงได้ใช้คาถานี้ในการเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติกให้เพื่อนๆ ชมกัน และเมื่อเพื่อนๆ ได้ทราบวิธีการเพาะถั่วงอกอย่างง่ายๆ แล้ว อาจจะทำกินเองที่บ้านก็ได้ แบ่งให้เพื่อนบ้าน หรือวางแผนขายบ้างก็ได้นะครับ
ขอเชิญเพื่อนๆ ไปชมวิธี"การเพาะถั่วงอก" ในขวดพลาสติก แต่เรื่องนี้มี "อูคูเลเล่" เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร? ขอเชิญติดตามได้เลยนะครับ...

อ.นิมิตร์ เทียมมงคล กำลังโชว์ถั่วงอกที่ปลูกอยู่ในขวดน้ำ 6 ลิตร ในวันที่ผมไปฟังการอบรมการปลูกถั่วงอก ที่พิพิทธภัณฑ์การเกษตร ตรงข้าม นิคมอุตฯ นว-นครครับ เมื่อกลับมาบ้าน ผมก็เลยหาซื้ออุปกรณ์เพื่อนำมาใช้ ในการเพาะ

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเพาะถั่วงอกประกอบด้วย
1. หัวแร้ง เอาไว้เจาะรู (ซื้อที่ร้าน 20 บาททุกอย่างก็มีครับ หรือจะใช้"ธูป"ก็ได้)
2. มีดคัตเตอร์ เอาไว้ตัดงานเล็กๆ น้อยๆ

3. กรรไกร ใช้ตัดอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ  
4. ถุงดำ ใช้ขนาดให้เหมาะสมกับขวดที่เพาะถั่วงอก แต่ต้องตัดปลายที่ก้นถุงดำ 1 (หรือ 2 ด้านก็ได้) เพื่อใช้ระบายน้ำให้ออกจากถุง
5. ตะแกรงไนล่อนหรือตะแกรงเกล็ดปลา (เมตรละ 30 บ.) เพื่อใช้พรางแสงขวดพลาสติก ให้ตัดขนาดเท่ากับเส้นรอบรูปของขวด 1 ใบ  
6. หนังยาง 1-2 เส้น (ไม่มีรูปถ่าย) ใช้เพื่อรัดตะแกรงไนล่อน

7. ฝาขวดน้ำ ให้เจาะรู (โดยใช้หัวแร้ง) ด้านบนของขวด 3 รู (หรือ 4 รูก็ได้) ดังรูป
8. ขวดน้ำ (ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมเท่านั้น) ให้เจาะรูด้านใดด้านหนึ่งของขวด (โดยใช้หัวแร้ง) ถ้าเพื่อนๆ ใช้ขวดขนาดเล็ก (ดังรูป) ก็เจาะ 8 รู ถ้าใช้ขวดขนาดกลางก็เจาะ 10 รู แต่ถ้าใช้ขวดน้ำขนาด 6 ลิตรก็เจาะ 12 รูครับ
9. เปิดฝา (โดยใช้คัตเตอร์) ด้านตรงข้ามกับที่เจาะรู  โดยเจาะ 3 ด้าน เหลือไว้ 1 ด้าน ดังรูป
เมื่ออุปกรณ์ครบแล้ว ก็เริ่มต้นการเพาะกันเลยนะครับ....
หมายเหตุ - การเพาะถั่วเขียว จะมีระยะเวลา~ 60 ชม. (เวลาที่แช่อาจจะเป็น เช้า สาย บ่าย เย็น ก็แล้วแต่ว่าเพื่อนๆ สะดวกเวลาไหนก็ได้ (ประยุกต์กันเอาเอง) แต่ก็นับเวลาในการทำให้ได้ 60 ชม.ก็แล้วกัน)
แต่เวลาที่ผมสะดวกในการแช่ถั่วเขียว เพื่อเริ่มทำก็คือ ตอน 3 ทุ่มนะครับ ... 
(จะเป็นเวลาที่พอดีเก็บเกี่ยวช่วงเช้าของวันที่เวลาครบ 60 ชม.ครับ)
กระบวนการเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก มีดังนี้
1. นำถั่วเขียวมาใส่ในขวด ในปริมาณเท่ากับ 1 ข้อของขวด ดังรูป จากนั้นให้ทำความสะอาดถั่วเขียวด้วยน้ำธรรมดา สัก 2 ครั้ง
2. ให้ใส่น้ำร้อน (100องศาเซลเซียส) 1 ส่วน นำมารวมกับน้ำธรรมดา 3 ส่วน จะได้น้ำที่อุณหภูมิประมาณ 40-45 องศาฯ ให้ใส่น้ำที่ผสมกันลงไปในขวด นับจากชั้นถั่วเขียวขึ้นไปอีก 2 ข้อ ดังรูป ให้แช่ถั่วเขียวในลักษณะขวดตั้งตรงแบบนี้ เป็นระยะเวลา 6-8 ชม.
3. ตอนนี้ 6 โมงเช้าแล้ว
หลังจากที่แช่ถั่วเขียวในน้ำที่มีอุณหภูมิ 40-45 องศาฯ แล้ว ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดา สัก 1-2 ครั้ง จากนั้นจับให้ขวดนอน ถั่วเขียวก็จะนอนตาม ดังรูป
4. นำตะแกรงไนล่อน ที่ได้ตัดไว้แล้ว มาโอบล้อมขวด ไว้เพื่อพรางแสง แต่ให้ปลายตะแกรงไนล่อนด้านหนึ่ง เสียบเข้าไปในฝาด้านที่เราเปิดฝาขวดเอาไว้    ดังรูป เพื่อให้น้ำขณะที่รดถั่วเขียว ผ่านลงไปไม่กระแทกถั่วเขียวโดยตรง

5. การรดน้ำถั่วเขียว จะรด 5 ครั้งต่อวัน  คือ...
6โมงเช้า 8โมงเช้า  เที่ยงวัน 6โมงเย็น และ2ทุ่ม 
(สามารถรดน้ำขวดถั่วเขียวขณะอยู่ในถุงดำเลยก็ได้ ดังรูป)
การรดน้ำ ให้ใส่น้ำลงในช่องที่เปิดเอาไว้ ระดับที่ใส่ก็แค่ท่วมถั่วเขียวก็พอครับ
ขณะนี้เวลาประมาณ 6 โมงเช้าแล้ว เพื่อนๆ ก็เตรียมรดน้ำได้เลยนะครับ และเหลืออีก 4 ครั้งในวันนี้ วางแผนให้ดีในการรดน้ำนะครับ

6. การรดน้ำแต่ละครั้งเมื่อเสร็จแล้ว ให้เอาขวดที่เราเพาะ วางนอนลงในถุงดำ จากนั้นให้รวบปากถุง และแขวนปากถุงเอาไว้ เพื่อระบายอากาศให้ถั่วเขียว ขณะถั่วเจริญเติบโต(บ้านผมสะดวกเพาะถั่วงอกในห้องน้ำจึงแขวนไว้ใต้อ่างล้างหน้า)
อย่าลืม ! นะครับว่าถุงดำต้องตัดปลายก้นถุง 1-2 มุมนะครับ เพื่อระบายน้ำที่รดถั่วเขียว ให้ออกมาจากถุงดำนะครับ

7. ขณะนี้เวลาประมาณ 3 ทุ่มของอีกวัน (ผมเริ่มแช่ถั่วเขียวเวลา 3 ทุ่มเมื่อวานนะครับ) ดังนั้น ขณะนี้ถั่วงอกจะมีอายุ 24 ชม. แล้ว สภาพถั่วเขียวก็เป็นดังรูป
ตอนนี้...เอาไปใส่ถุงดำเก็บไว้ เพื่อรอรดน้ำพรุ่งนี้ต่ออีก 1 วันนะครับ... 
8. ขณะนี้เวลา 6 โมงเช้าแล้ว เพื่อนๆ ต้องรดน้ำในวันนี้อีก 5 ครั้งนะครับ คือ
6โมงเช้า 8โมงเช้า  เที่ยงวัน 6โมงเย็น และ2ทุ่ม

9. อย่าลืม ! เมื่อรดน้ำแต่ละครั้งเสร็จ ให้แขวนปากถุงดำไว้ ดังรูป
10.ตอนนี้ 3 ทุ่มหรือถ้านับเวลาก็จะได้ 48ชม.แล้ว จับถั่วงอกมาถ่ายรูปซะหน่อย
11. เช้าของอีกวันหนึ่งแล้ว ขณะนี้เวลาประมาณ 9 โมงเช้า หรือเวลาได้ผ่านไปประมาณ 60 ชม.แล้ว สภาพของถั่วงอกก็เป็น ดังรูป พร้อมเก็บเกี่ยวได้แล้ว

12. การเก็บเกี่ยวถั่วงอกที่อยู่ในขวดพลาสติกนั้น ให้ค่อยๆ ดึงถั่วงอกออกมาจากขวด และนำถั่วงอกที่ได้ไปใส่ในถังพลาสติกที่ใส่น้ำไว้ประมาณ 3/4 ถัง
จะได้ง่ายต่อการสางหมวกสีเขียว ออกจากถั่วงอก

ในภาพจะเป็นถั่วงอกที่ได้สางจากน้ำเสร็จแล้ว ดูน่าทานไหมครับ ...
ถั่วงอกที่ได้มา ผมจะผึ่งให้แห้งสักเล็กน้อย เพราะถั่วงอกพึ่งขึ้นมาจากน้ำ ยังเปียกอยู่ จากนั้น...


 
เพื่อนๆ ก็สามารถนำถั่วงอกที่ได้ไปทำอาหาร หรือเอาไปให้เพื่อนบ้านได้ทานถั่วงอกปลอดสารฯ ด้วยกัน... เพื่อนๆ จะมีความสุขมาก ที่ได้ให้ของกินที่มีคุณภาพแก่เพื่อนบ้าน สังคมก็จะมีความสุขและรอยยิ้มที่มีให้ต่อกัน
และหลังจากเพื่อนๆ ได้เก็บไว้ทานเองก็แล้ว ให้เพื่อนบ้านก็แล้ว และถ้ายังมีถั่วงอกเหลืออยู่ ลองวางแผนใส่ถุงเอาไปจำหน่ายก็ได้นะครับ ...
ตอนนี้ลูกๆ ของผม กำลังวางแผนเพาะถั่วงอกเพื่อไปจำหน่าย ให้กับเพื่อนที่ทำงานของผม โดยเด็กๆ มีเป้าหมายเพื่อที่จะซื้อเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งก็คือ ....


วันนี้ผมได้พาเพื่อนๆ มาชมการเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก ซึ่งขอขอบพระคุณ อ.นิมิตร์ เทียมมงคล ที่ได้ถ่ายทอดความรู้การเพาะถั่วงอกนี้มาให้ผม และผมก็ได้นำมาถ่ายทอดความรู้ให้เพื่อนๆ ชาว ok อีกทอดหนึ่ง ...
แต่การเพาะถั่วงอก ยังสามารถนำมาสอนลูกของผมได้ในเรื่องการทำงาน ผมอยากให้เด็กๆ ได้เห็นคุณค่าของเงินและสิ่งของที่เขาหามาได้ ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขา และจะได้รู้ว่ากว่าได้เงินมาได้แต่ละบาทนั้น มีความยากลำบากแค่ไหน และเมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาจะได้เห็นความสำคัญของการทำงานที่สุจริต และจะได้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมต่อไป 
ประโยชน์ ถั่วงอกมีคุณประโยชน์มากมาย ได้แก่ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมากสำหรับร่างกาย ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล (วิตามินอี) ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง วิตามินซีจากถั่วงอกช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย
          ช่วยป้องกันหวัด บำรุงประสาทและสมอง (เลซิทิน Lecithin) บำรุงกระดูกและฟัน เนื่องจากถั่วงอกเป็นผักที่มีแคลเซียมสูง จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
          นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและการเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันได้ เพราะไปช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) ช่วยลดระดับ (LDL) ช่วยลดระดับ เอสโตรเจนในร่างกาย เพราะฮอร์โมนของผู้หญิงมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างเซลลูไลท์ ช่วยเก็บน้ำและช่วยเร่งการผลิตไขมัน ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงไม่ควรจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเกินไป และช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมเซลล์ ต่าง ๆ ในร่างกาย (วิตามินบี12) รวมทั้งถั่วงอกเป็นผักที่ย่อยง่ายจึงทำให้ขับถ่ายได้สะดวก
          สำหรับสรรพคุณทางยา ได้แก่ ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคลักปิดลักเปิด ช่วยในการขับเสมหะ ทำให้ปอดโล่ง ซึ่งการรับประทานถั่วงอกก่อนมีประจำเดือนจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติของประจำเดือนได้ ช่วยลดและกำจัดของเสียหรือสิ่งตกค้างในร่างกายได้เป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักเป็นพิเศษ เนื่องจากถั่วงอกมีน้ำตาลน้อยมาก
อย่างไรก็ตามบางครั้งถั่วงอกที่วางขายในตลาดอาจมีสารปนเปื้อนอยู่บ้างเพื่อให้ดูสด ขาว อวบ น่ารับประทาน ดังนั้นเราจึงควรเลือกซื้อถั่วงอกที่รากไม่ยาว (ปลูกโดยใช้ผ้ารองพื้นไม่ใช้น้ำยาเคมี) สังเกตดูที่เปลือกนอกถั่วมีปะปนอยู่บ้างหรือไม่ เพราะการแช่สารฟอกสีจะทำให้เปลือกหลุดหมด หากเป็นเวลาบ่ายหรือค่ำแล้วยังพบว่าถั่วงอกมีสภาพที่พองตัวและขาวอวบอาจมีสารฟอกสีเจือปน 
          วิธีที่ดีที่สุดเมื่อซื้อมาแล้วก่อนจะนำไปบริโภคควรแช่น้ำทิ้งไว้สักประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือทำให้สุกจะปลอดภัยมากกว่าการรับประทานดิบ ๆ ที่สำคัญเนื่องจาก ถั่วงอกดิบมีกรดไฟติกมาก ผู้ที่ปวดเข่าควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื่องจากกรดชนิดนี้จะไปแย่งจับแคลเซียม แต่ถ้าอยากจะรับประทานควรนำไปต้มหรือทำให้สุกเสียก่อน
          เมื่อทราบคุณประโยชน์ของถั่วงอกแบบนี้แล้วอย่าลืมหันมาเลือกรับประทานกันดูบ้าง เพราะนอกจากจะให้คุณค่ามากมายแล้วยังสามารถปลูกรับประทานเองได้ง่าย ๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากอีกด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีและแข็งแรงกว่าเดิม แต่อย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ควบคู่ไปด้วยนะคะ

http://www.farmthailand.com/479

ข้อเสีย

หากรับประทานถั่วงอกมากเกินควรในครั้งเดียว ร่างกายจะอิดโรย ผอมซูบ เป็นลม หมดสติ เพราะร่างกายผู้หญิงและผู้ชายบางกรุ๊ปเลือดจะเผาผลาญพลังงานตลอดเวลา นี้เป็นปัจจัยให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมากผิดปกติ และอาจทำให้เสียชีวิตได้

สรรพคุณทางยา

ถั่วงอกมีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้และเอนไซม์ เพราะช่วยกระตุ้นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นภายในร่างกาย หรือที่เรียกว่า "ตัวทำปฏิกิริยา" ทั้งยังช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด

ข้อควรระวัง

ถั่วงอกในท้องตลาดอาจปนเปื้อนสารเร่งโต สารเร่งให้อ้วน สารฟอร์มาลิน และสารฟอกขาว ซึ่งต้องห้ามและเป็นโทษต่อร่างกาย สารปนเปื้อนเหล่านี้มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และระบบหายใจ รวมถึงอาจเป็นสาเหตุของเนื้องอกและมะเร็งด้วย

อาหารที่เกี่ยวข้องกับถั่วงอก

ผัดถั่วงอกหมู3ชั้น

ถั่วงอกรวมมิตร

ผัดถั่วงอกเต้าหู้


ผัดไท

ผัดหอยนางรม


ก๋วยเตี๋ยว


ประวัติผู้คิดค้น

ไม่ทราบผู้คิดคว้า แต่พัฒนามาจากถั่วเขียวโดยอาจจะคิดคว้าหาวิธีต่างๆ จนได้มาเป็นถั่วงอกที่มีลักษณะสีขาว อวบ และสามารถนำมาประกอบอาหารได้